วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สถาปัตยกรรมหิน "สโตนเฮนจ(Stonehenge)"


สถาปัตยกรรมหินพิศวง ์สโตนเฮนจ (Stonehenge) เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่หนักถึง 30 ตัน จำนวน 112 ก้อน ถูกวางตั้งเรียงรายราว 3 กิโลเมตร เป็นวงกลมกลางทุ่งกว้างใหญ่ ซ้อนกัน 3 วง บางก้อนนอน บางก้อนตั้งตรง บางก้อนซ้อนทับอยู่บนยอดก้อนหินที่ตั้งอยู่สองก้อน ไม่มีใครทราบว่าเอามาตั้งเพื่ออะไร และนำเอามาอย่างไร มันตั้งตระหง่านอยู่บนที่ราบซาลิสบิวรี ในเขตวิลท์เชอร์ (Wiltshire) ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษมากว่า 5,000 ปีล่วงมาแล้ว
นับว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชวนพิศวง แสดงให้เห็นถึงการอพยพย้ายถิ่นฐานของชนเผ่าเร่ร่อนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นวิวัฒนาการความก้าวหน้าหรือความเสื่อมถอยของชนเผ่าในยุคนั้น รวมถึงพิธีกรรมความเชื่อในไสยศาสตร์ ก่อนที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้าง สโตนเฮนจ์ จะถูกเปิดเผย ได้มีการตั้งข้อสมมุติฐานต่าง ๆ นานา บ้างก็คิดว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ป้องกันข้าศึก หรืออาจจะเป็นสุสานหรือวิหารที่บูชาเทพจันทรา ขณะที่นักวิชาการและนักโบราณคดีบางกลุ่มเชื่อว่ามันเป็นซากปรักหักพังของวิหารโรมัน บ้างก็ว่าใช้เป็นที่ประกอบพิธีบูชาพระอาทิตย์ บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นที่ประกอบพิธีฝังศพ หรืออาจจะเป็นสถานที่สำหรับเยียวยาผู้ป่วย เพราะบริเวณนี้พบกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บมากผิดปกติส่วนนักดาราศาสตร์ก็อ้างว่า สามารถถอดรหัสแนวหิน สโตนเฮนจ์ ได้ว่าเป็นเครื่องคำนวณเวลายุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งใช้เป็นปฏิทินดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ เพราะแนวหินกลุ่มก้อนต่าง ๆ ล้วนมีความสัมพันธ์กับแนวการเคลื่อนของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวพระเคราะห์ทั้งสิ้น แม้ทฤษฏีทั้งหลายจะมีตัวเลข และสถิติผลการวิจัยสนับสนุน แต่ก็ยังไม่มีแนวคิดใดไขปริศนาลึกลับแห่ง สโตนเฮนจ์ ได้อย่างสมบูรณ์
อาจารย์เจอรัลด์ เอส.ฮอว์กินส์ นักดาราศาสตร์ กล่าวว่า ลักษณะการเรียงตัวของสโตนเฉนจ์นั้นเป็นไปในแนวเดียวกับวงโคจรของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ดังนั้น เจ้าสิ่งนี้มันก็เป็นเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถพยากรณ์การเกิดสุริยุคราส หรือจันทรคราสได้ การก่อสร้าง สโตนเฮนจ์ นั้น ทำสืบเนื่องกันมาถึง 3 ระยะ ในช่วงเวลาประมาณ 1,500 ปี โดยคำนวณอายุได้จากการใช้กัมมันตภาพรังสี ในระยะแรกของการก่อสร้าง ผู้สร้างน่าจะเป็นพโดยรอบนอกพวกเขาขุดหลุมเอาไว้ด้วยพลั่วที่ทำจากเขากวางและกระดูกไหปลาร้าวัว ภายในหลุมก็จะใส่หินปูนสีขาวไว้ และเชื่อกันว่าแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงบนหินในช่วงฤดูร้อนนั้น จะช่วยส่งเสริมพลังอำนาจให้กับผู้ประกอบพิธีบูชาเทพเจ้า ส่วนตรงปากทางเข้าจะมี หินฮีล (Heel Stone) วางตั้งอยู่ จะสังเกตได้ว่าหินที่อยู่ในวงกลมจะตั้งอยู่ในแนวเดียวกันกับหินที่อยู่รอบนอก ความลึกลับชวนค้นหานั้นเอง ทำให้ สโตนเฮนจ์ ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนชมกลุ่มหินประหลาดนี้เป็นจำนวนมากนักล่าสัตว์หรือชาวนาที่อพยพมาจากภาคพื้นทวีปได้สร้างมันเป็นรูปวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 11 กิโลเมตรความน่าพิศวงอีกอย่างหนึ่งของ สโตนเฮนจ์ ก็คือบริเวณรอบ ๆ นั้น เป็นทุ่งกว้างไม่มีภูเขาหรือสิ่งก่อสร้างด้วยก้อนหินอื่น ๆ จึงเป็นปริศนาว่าหินยักษ์เหล่านี้ มาจากที่ไหน และด้วยความหนักและใหญ่ของหินแต่ละก้นจึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ หากมนุษย์เรายังไม่มีเครื่องทุ่นแรงจะยกหรือลากมันมาได้ จึงมีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า สโตนเฮนจ์ เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาว สร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ เช่น เดียวกับที่หมู่บ้าน Avebury ซึ่งอยู่ไกลจาก สโตนเฮนจ์ไปประมาณ 25 กิโลเมตร ที่ Avebury แห่งนี้เองมีลักษณะคล้ายกับสโตนเฮนจ์ มีหินขนาดใหญ่วางเรียงห่าง ๆ กันเป็นวงกลมชั้นเดียว เรียกกันว่า Avebury Stone Circles ถึงจะดูไม่ยิ่งใหญ่ อลังการเท่าสโตนเฮนจ์ ก็สามารถสัมผัสอย่างใกล้ชิดได้

เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ เขานำหินเหล่านี้มาวางไว้ตรงนี้ได้อย่างไร เพราะคงต้องใช้คนนับพันเพื่อที่จะลากมันมาจากไหนสักแห่ง หินเหล่านี้ถูกนำมาจากหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งหินซาร์เซนน่าจะถูกชักลากมาจากทุ่ง มาร์ลโปรโรดาวนส์ ส่วนหินสีน้ำเงินก้อนใหญ่ที่สุด สันนิษฐานว่ามาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นเวลส์ โดยใช้แพลำเสียงล่องมาตามชายฝั่ง แล้วชักลากต่อมาทางบก ใช้เวลายาวนานถึง 7 ปี เต็มกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น จากนั้นหินขนาดใหญ่เหล่านี้ ก็ถูกนำมาประกอบขึ้นด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของมนุษย์ ถือเป็นความมหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรมของมนุษยชาติที่น่ายกย่องสรรเสริญ

Actrice en France.


Sophie Marceau (prononciation française; né le 17 Novembre 1966) est une actrice française, qui a joué dans 35 films. Pendant son adolescence, Marceau atteint la popularité de son premiers films La Boum (1980) et La Boum 2 (1982), pour lequel elle a reçu un César du meilleur espoir féminin. En plus de ses films en langue française, elle a travaillé dans des films internationaux tels que Braveheart (1995) et que la principale antagoniste Elektra King dans The World Is Not Enough (1999).


Isabelle Yasmine Adjani (né le 27 Juin 1955) est une actrice et chanteuse française. Adjani est apparue dans 30 films depuis 1970. Elle détient le record pour la plupart des César de la meilleure actrice (5), qui lui a valu de mise en possession (1981), L'Eté meurtrier (1983), Camille Claudel (1988), La Reine Margot (1994) et journée de la jupe (2009). Elle a également obtenu un double Best Festival de Cannes actrice en 1981. Elle a également reçu deux nominations aux Oscars pour la meilleure actrice. Elle se produit en français, anglais, et Germ.

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เมื่อเวลาเร็วขึ้น1ชม.ในหน้าร้อน...

เวลาฤดูร้อน (Summer Time) อันนี้เรียกในโซนฝั่งยุโรป ส่วนทางอเมริกาจะเรียก Daylight Saving Time กว่า คือ การปรับเวลาในช่วงฤดูร้อนโดยการหมุนเข็มนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงจากเวลาปกติค่ะ เพราะในช่วงกลางวันของฤดูนี้จะยาวนาน จึงต้องทำการปรับเพื่อนประหยัดเวลาและพลังงาน พอปรับแล้วเวลาก็เร็วขึ้นจากเดิม อย่างถ้าน้องๆ ต้องเรียนหนังสือกันตอน 9 โมงเช้า พอเข้าเวลาฤดูร้อน ก็ต้องเปลี่ยนเวลามาเรียนล่วงหน้า 1 ชั่วโมง นั่นก็คือ เริ่มเรียนกันตั้งแต่ตอน 8 โมงเช้าเลย โอ้วว
ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 50 ประเทศค่ะที่ใช้ระบบเวลาฤดูร้อน โดยเฉพาะฝั่งยุโรปและอเมริกา อาจจะต้องปรับตัวตามเวลากันให้ทันนิดหนึ่ง
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าประเทศไหน เวลาจริงเป็นยังไง?
ให้ลองดูจาก DST ค่ะ (ย่อมาจาก Daylight Saving Time) ถ้าเมืองไหนที่มีเครื่องหมาย DST อยู่ ในช่องเวลา ให้น้องๆดูว่าเมืองนั้นอยู่ระหว่างหรือในช่วงปรับเวลาหรือเปล่า ถ้าเมืองนั้นอยู่ในช่วงปรับเวลา ต้องบวกไปอีกหนึ่งชั่วโมงค่ะ เช่น ถ้าเห็นเวลา 20:00:00 และ เวลาจริงก็คือ 21:00:00 ค่ะ แล้วจะมีการเริ่มปรับให้เร็วขึ้น และเวลาสิ้นสุดต่างกันในแต่ละประเทศ ลองไปดูกันค่ะ

ฝั่งยุโรป
ได้แก่ ลอนดอน ,ปารีส,โรม ,แฟรงค์เฟิร์ต,ออสเตรีย,เดนมาร์ก,มอสโคว,สวีเดน,สวิตเวอร์แลนด์ ก็จะเริ่มปรับกันในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม แล้วไปสิ้นสุดการปรับเวลาในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
ฝั่งเอเซีย
ประเทศอิรัก จะเริ่มปรับเวลาในวันที่ 1 เมษายน และสิ้นสุดการปรับเวลาที่ วันที่ 1 ตุลาคม ,ประเทศอิสราเอล จะเริ่มต้นช่วงปรับเวลาในวันศุกร์แรกของเดือนเมษายน แลไปสิ้นสุดการปรับเวลาในวันศุกร์แรกของเดือนกันยายน
ฝั่งอเมริกาเหนือ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ฮุสตัน,ชิคาโก้,นิวยอร์ค,วอชิงตัน ดีซี,ลาสเวกัส,ลอสแองเจอลิส จะเริ่มต้นช่วงปรับเวลาในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนมีนาคม และสิ้นสุดในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน
แคนาดา
ได้แก่ ควิเบก,มอนทรีออล,โตรอนโต,แวนคูเวอร์ จะเริ่มปรับเวลาในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน และไปสิ้นสุดการปรับเวลาในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
ฝั่งอเมริกาใต้
ประเทศบราซิล - เริ่มวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม และสิ้นสุดในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์
ประเทศชิลี เริ่มต้นช่วงปรับเวลาในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม(วันอาทิตย์แรกของเดือนหลังจากวันที่ 8 ไปแล้ว)และสิ้นสุดในวันอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม (วันอาทิตย์แรกของเดือนหลังจากวันที่ 8 ไปแล้ว)
ออสเตรเลีย
ได้แก่ โอ๊คแลนด์,นิวซีแลนด์ เริ่มในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม และสิ้นสุดในวันวันอาทิตย์แรกของเดือนหลังจากวันที่ 4 ไปแล้ว ของเดือนตุลาคม,ซิดนีย์ เริ่มในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และสิ้นสุดในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม
แอฟริกา
ประเทศอิยิปต์ เริ่มในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเมษายน และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือนกันยายน

รู้ไหมว่า...การปรับเวลาให้เร็วขึ้น เพื่อประหยัดเวลาและพลังงานด้วย !!

La Boum



La Boum (US title: The Party) is a 1980 French language motion picture comedy directed by Claude Pinoteau and starring Claude Brasseur, Brigitte Fossey, and Sophie Marceau. The movie has been an international box-office hit. The music was written by Vladimir Cosma. Richard Sanderson sang the song "Reality".


The film tells the story of a 13-year-old girl, Vic, who falls in love with a boy from the same school. She and her friends are anxious to explore relationships at "boums" (parties), without the watchful eyes of their parents. At the same time, Vic's parents have extramarital relationships before reuniting towards the end of the film. In the end Vic has her eye on another boy which leads to the story of "La Boum 2."


La Boum est un film de 1980.Le réalisateur, Claude Pinoteau, a choisi, parmi des centaine decandidates, une jeune débutante :Sophie Marceau. Le film a eu unénorme succès.






HOUSE MUSIC

HOUSE ต้นตำรับดนตรีเต้นรำในยุคนี้ ถือกำเนิดในช่วงกลางขยับมาตอนปลายยุค 80 ในชิคาโก ความเร็วของบีทราว ๆ 120 ต่อนาที พอ ๆ กับจังหวะการเต้นหัวใจของคนเที่ยว เอาดนตรีดิสโก้มาเป็นพื้น มีทำนองง่าย ๆ ติดหู แต่เป็นเสียงสังเคราะห์ ตัวเบสส์ฟังดูลึก และยังเติมความเป็นลาทินโซล และพั้งค์เข้าไป ส่วนใหญ่เป็นเสียงร้องอันทรงพลังของนักร้องสาว ซึ่งไม่ถือเป็นจุดเด่นนักในช่วงแรก ๆ ก่อนที่จะแตกแขนงออกไปหลายแนว Classic House : M People, The Bucketheads, Funky Green Dogs, Junior Vasquez, Blaze, Cevin Fisher, Joey Nego, Deep Dish, Roger SanchezDEEP HOUSE ของแท้มาจากชิคาโก โดยเน้นที่ตัวเสียงนักร้องมากขึ้น บางคนก็เรียก vocal house หรือ soulful house นอกจากจะเน้นที่เสียงร้องซึ่งกลั่นมาจากอารมณ์ที่เปี่ยมรัก (ส่วนใหญ่นักร้องจะเคยร้องอ้อนวอนพระเจ้าในโบสถ์มาก่อน) ยังมีท่อนตีวนของเปียโนอีก Classic Deep House : Joe Smooth, Ten City, Frankie Knuckles GARAGE ได้ชื่อมาจากคลับพาราไดซ์การาจในนิวยอร์คใกล้เคียงกับความเป็นดิสโก้ต้นตำรับมากที่สุด แม้ว่าจะใช้เครื่องดนตรีสังเคราะห์แบบเฮ้าส์ เสียงร้องอบอวลไปด้วยอารมณ์แบบดีพเฮ้าส์ แต่โพรดักชั่นของเสียงและทำนองจะเนี้ยบ และให้ความรู้สึกของความเป็น ‘ของจริง’ และ ‘มีชีวิต’ กว่า ดีเจแนวนี้จะมีซาวน์ดที่เป็นเอกลักษณ์ บางคนจะเด่นที่จังหวะกลอง เครื่องสาย เสียงเพียโน หรือจังหวะแอฟริกันคิวบา การาจจะลื่นไหล สวยงาม ระรื่นกว่าเฮ้าส์ คลับ Ministry Of Sound ขุนแนวนี้จนดังต่อในวันนี้ Classic Garage : Todd Terry, Masters At Work, David Morales, DJ Piere, Francois Kervorkian, Ronamthony, Tony HumphriesACID HOUSEเฮ้าส์กลายพันธุ์สายพันธุ์แรก เกิดจากการใส่เสียงเบสส์ อันเป็นเอกลักษณ์ผ่านโรแลนด์ทีบี 303 เข้าไปเกิดอาการหลอนบวกกับการมาถึงของยาเอ็กสทาซี่ย์ (****) จึงเติมคำว่า ‘แอซิด’ แบบเดียวกับที่มีแอซิดร็อคในช่วงฮิพพี่ย์ยุค 60 ซาวน์ดสังเคราะห์จะกระแทกกระทั้นไม่เน้นเนื้อร้อง ถ้ามีก็จะวนไปวนมาพูดถึงความบ้าบอของการเต้นรำ การอยู่ด้วยกัน และการใช้ชีวิตในเวลานี้ให้ดีที่สุด ซึ่งตรงใจคนอังกฤษ เพราะมองว่าดนตรีนี้คือการนำมาซึ่งความรัก (ยาอีทำให้นักเต้นรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน) Classic Acid House : The Garden Of Eden, Phuture, Adonis, Fingers Inc, Lochi FRENCH HOUSE มาจากฝรั่งเศสตามชื่อ เหมือนเป็นการเดินย้อนศรไปจุดเริ่มต้นของดนตรีเต้นรำหยิบความเป็นเฮ้าส์ยุคดั้งเดิม มาบวกกับดนตรีเทคโนและดิสโก้ ซาวน์ดจะออกมาย้อนยุค เชย และให้ความรู้สึกบริสุทธิ์แบบเด็ก ๆ Classic French House : Daft Punk, Motorbass, I:Cube SPEED GARAGEลูกผสมของจังหวะเฮ้าส์กับการเดินเบสส์ต่ำ ๆ ของการาจ แต่เป็นสไตล์อังกฤษ ก็เลยมีพื้นมาจากดนตรีเร็กเก้ในอดีตด้วย ดนตรีจะเร็วตามชื่อเสียงที่เปี่ยมอารมณ์ของนักร้องถูกผ่าตัดให้เป็นเสียงหุ่นยนต์ที่กระด้างขึ้น Classic Speed Garage : Rosie Gaines, Tina Moore, Double 99, Tuff Jam UK GARAGE หรือคนวงในเรียก UKG กระแสดนตรีล่าสุดของอังกฤษ ที่ผนวกความหวานหยดย้อยของดนตรีการาจ เติมเสียงร้องอันทรงพลังของดนตรีโซล และการบ่นโชว์ลีลาของ MC ที่ถูกนำมากรองผ่านกระแสไฟฟ้าจนถูกโยกย้ายสลับที่ตีลังกาได้ตลอดเวลา ในขณะที่ดนตรียังคงไว้ที่ท่วงทำนองที่ติดหู เนี้ยบ คมกริบ จึงเป็นเหมือนดนตรีใต้ดิน ที่เอาความพ็อพบนดินที่สุดมาหยอดใส่อย่างลงตัว Classic UKG : MJ Cole, Craig David, Mis-Teeq, Sweet Female Attitude, Todd Edwards, Zed Bias, The Dreem Teem AMBIENT HOUSE ดนตรีเต้นรำที่เอาไว้ใช้ละลายสลายฤทธิ์ของยาอี ที่นักเต้นใช้ คลับบางแห่งใช้ในการอุ่นเครื่อง บางที่ใช้ไว้ประดับห้องชิลล์เอ๊าท์ เพราะฤทธิ์ยาเวลาค่อย ๆ เสื่อมจะกินเวลานาน (ช่วง come down) เพลงแนวนี้จะเติมความลอยล่องของแอมเบี้ยนท์ไว้บนจังหวะเฮ้าส์พื้น ๆ แทรกเสียงร้องที่ไปแซมเพิ่ลงานบ้านมาเป็นระยะ ๆ เนื้อเพลงมักพูดถึงโลกเหนือจริง ท้องฟ้า ธรรมชาติที่งดงาม พิภพต่างดาว ตลอดจนถึงความเชื่อในยูเอฟโอ Classic Ambient House : 808 State, The KLF, The Orb, The Beloved, Ultramarine, Biophere, System 7 TECH-HOUSE ดนตรีเฮ้าส์ที่นิยมซาวน์ดง่าย ๆ กระด้าง ๆ ของเทคโนยุคแรก ๆ หรือไม่ก็เทคโนดิบจากเบลเยี่ยมมาใส่ในตัวเพลง Classic Tech-House : Moodyman, Funk D’Void, Daniel Ibbotson, Herbert, John Acquaviva, Dan Curtin JAZZ HOUSE แนวดนตรีเฮ้าส์ในยุคหลัง ที่ใช้อารมณ์ของแจ๊ซซ์ในการสร้างบรรยากาศถูกมองว่าเป็นหนึ่งในซาวน์ของดนตรีชิลล์เอ๊าท์โดยไม่ได้ตั้งใจ มักจะได้รับความนิยมในหมู่นักตกแต่งบ้าน ที่นิยมผลงานออกแบบสุดโมเดิร์นของดีไซเนอร์จากสแกนดิเนเวีย ตราแผ่นเสียงคอมโพสท์มาจากเยอรมันนำทีมดนตรีแนวนี้ ช่วงแรกเรียก Nu Brit House เพราะเริ่มมาจากอังกฤษ Classic Jazz House : Jazzanove, Swayzak, Natural Calamity, Faze Action, Sensory Elements, Satoshi Tomiie, Idjut Boys, Fila Brazillia

หอมอย่างมีเสน่ห์


เคล็ดลับในการพรมน้ำหอมนั้น สาวๆ สามารถใส่น้ำหอมได้หลายแบบ ถ้าสาวๆ ต้องการพรมน้ำหอมให้มีกลิ่นบางๆ ดูสบายๆ ก็สามารถทาโลชั่นหรือครีมทาผิวที่มีกลิ่นน้ำหอมที่เราชื่นชอบผสมอยู่ แต่ถ้าต้องการกลิ่นที่ติดทนนาน ก็ควรที่จะใช้ โอ เดอ เพอร์ฟูม หลังจากทาครีมทาผิวแล้ว
จุดสำคัญสำหรับการพรมน้ำหอมคือ บริเวณลำคอ แขน และด้านหลังหัวเข่า กลิ่นหอมมักจะลอยตัวขึ้นด้านบน ดังนั้นการพรมน้ำหอมที่ด้านหลังหัวเข่า จะส่งผลให้เกิดความหอมทั่วเรือนร่างได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้การฉีดน้ำหอมไปในอากาศด้านหน้าและเดินผ่านละอองน้ำหอมก็จะทำให้ละอองน้ำหอมติดอยู่บนเส้นผมของสาวๆ อีกด้วยนะคะ ส่วนระยะห่างในการฉีดน้ำหอมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ควรจะฉีดน้ำหอมให้ห่างจากตัวประมาณ 6 นิ้ว
การเติมน้ำหอมในระหว่างวันนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและลักษณะของน้ำหอมแต่ละชนิด น้ำหอมที่สกัดมาจากพรรณไม้ตะวันออก ดังเช่นกลิ่นโอเรียนทอลและวูดดี้ มักจะติดทนนานกว่ากลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้หรือผลไม้ น้ำหอมประเภท โอ เดอ เพอร์ฟูม ก็มักจะมีกลิ่นหอม เข้มข้นกว่าโคโลญจน์ เป็นต้น ตามปกติแล้วกลิ่นของน้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 4-6 ชั่วโมง หลังจากนั้นสาวๆ ก็จะสามารถพรมน้ำหอมได้อีกครั้ง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สาวๆ ไม่ควรที่จะฉีดน้ำหอมมากเกินไป เพราะกลิ่นจะฉุนจัดและไม่สร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้างเอาเสียเลย ถ้าหากต้องการกลิ่นหอมแบบติดลึก แต่บางเบาสาวๆ ควรจะทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวของกลิ่นน้ำหอมนั้นก่อนและจึงตามด้วยการพรมน้ำหอม ซึ่งสามารถทำให้กลิ่นหอมติดทนนาน และเป็นที่ประทับใจสำหรับตัวเราเองและคนรอบข้างด้วย

เรื่องน่ารู้...ที่อาจจะยังไม่รู้



จระเข้น้ำตาไหลตอนกินอาหารจริงหรือ ?
ระบบประสาทของต่อมน้ำตาและต่อมน้ำลายของจระเข้ทำงานร่วมกัน ทำให้เวลากินเหยื่อการทำงานของต่อมน้ำลายจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำตา จระเข้จึงมีน้ำตาไหลออกมา

เพศของลูกเต่าเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิจริงหรือ ?
อุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเพศของเต่าว่า จะเป็น เพศผู้หรือเพศเมีย หากสถานที่ฝักไข่อยู่ในจุดรับแดด ไข่จะออกมาเป็นเพศเมีย หากสถานที่ร่มเย็นไข่จะออกมาเป็นเพศผู้

เวลาเลือดกำเดาไหล ให้เงยหน้าถูกหรือไม่ ?
เวลาเลือดกำเดาไหลอย่าตกใจให้นั่งนิ่งๆ จากนั้นก้มหัวไปข้างหน้าเล็กน้อย บีบรูจมูกทั้งสองข้างเบาๆประมาณ 5-10 นาที เพื่อห้ามเลือด ห้ามเงยหน้า ไม่งั้นเลือดอาจไหลลงคอ จากนั้นให้ใช้ผ้าประคบน้ำแข็งวางไว้ที่ดั้งจมูกเพื่อให้เลือดแข็งตัว ถ้า 30 นาทียังไม่หยุดไหลให้รีบไปโรงพยาบาล

ถ้าสะอึกแล้วกลั้นหายใจ จะหายไหม ?
แก้สะอึกให้ลองหายใจลึกๆหรือทุบที่หลังเบาๆเพื่อกระตุ้นระบบประสาท วิธีนี้อาจทำให้อาการสะอึกหายไปได้ ไม่อย่างนั้นอาจลองหายใจออกยาวๆหรือเกร็งหน้าท้องเบาๆก็ได้ (การกลั้นหายใจยาวๆอาจส่งผลเสียอย่างอื่น)

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เล่นคอมนานเกินไป..รู้มั้ยทำให้อยากของหวาน

ความเครียดของสมองจากการใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระดับน้ำตาลในเลือด และระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นให้สมองคิดว่าทำงานมาหนักแล้ว และต้องการพลังงานมาชดเชย
สำหรับผลการวิจัยชิ้นนี้ ดร.ฌอง-ฟิลิปป์ ชาปูต์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ได้รายงานต่ออินเตอร์เนชั่นแนล คองเกรส ออน โอเบสิตี้ ในสต็อกโฮล์ม สวีเดน ว่าการเล่นเกมคอมพิวเตอร์และการดูทีวีมีผลแบบเดียวกัน และได้แนะนำให้ผู้ที่อยากรักษาหุ่นพักจากหน้าจอเป็นประจำ หรือกระทั่งลองยืนพิมพ์งานเป็นครั้งคราว
ดร.ชาปูต์เริ่มการวิจัยเรื่องนี้หลังสังเกตว่า หัวหน้างานกินบิสกิตช็อกโกแลตบ่อยๆ เมื่อทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ในการทดลอง อาสาสมัครที่เป็นนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งต้องย่อข้อความบนหน้าจอ และอีกกลุ่มนั่งพักผ่อน 45 นาที
ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เผาผลาญพลังงานมากกว่าอีกกลุ่มเพียง 3 แคลอรี่ แต่กินอาหารบุฟเฟ่ต์ที่นักวิจัยจัดไว้ให้หลังจากนั้นมากกว่าถึง 230 แคลอรี่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตและอาหารที่มีไขมัน
จากการทดลองแสดงให้เห็นว่าการทำงานกับคอมพิวเตอร์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนรุนแรง และฮอร์โมนกระตุ้นความอยากอาหารพุ่งพล่าน ผลลัพธ์คืออาสาสมัครสวาปามอาหารที่ไม่จำเป็น และในทางกลับกัน การออกกำลังกายทำให้ความผันผวนดังกล่าวลดลง จึงมีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะกินอาหารมากเกินไปหลังจากนั้น

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตะไคร้สมุนไพรไทย...มีอะไรดีเยอะ


ตะไคร้ เป็นวัตถุดิบที่สำคัญมากในการปรุงอาหารในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่นประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น สมุนไพรที่ดีๆ แบบนี้ โตง่ายมากๆ ในแถบประเทศเขตร้อน

ตะไคร้ยังเป็นพืชที่มีสารประกอบที่มีกลิ่นหอมมาก มีกลิ่นหอมของมะนาวกับกลิ่นขิงนิดๆ ที่จะทำให้อาหารจานเด็ดน่ารับประทานขึ้นมา และกลิ่นหอมนี้จะตราตรึงในใจ แม้ว่าจะทานอาหารไปแล้วหลายชั่วโมงก็ตาม

ตะไคร้ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย มันสามารถช่วยทำความสะอาดและขจัดสารพิษออกจากอวัยวะต่างๆ ในระบบย่อยอาหาร และทำให้กรดยูริค โคเลสเตอรอล ไขมันส่วนเกิน และสารพิษอื่นๆ ในร่างกายลดลงด้วย ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย

คุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร

คุณค่าทางยา : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ช่วยลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของโยเกิร์ต

โยเกิร์ตเป็นอาหารที่ดูดีมีชาติตระกูล เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราเป็นที่สุด แต่เบื้องหลังโยเกิร์ตยังมีความลับอีกหลายอย่างที่คุณอาจยังไม่รู้
- คนที่ท้องเสียเพราะมีเชื้อจุลลินทรีย์ในลำไส้ แต่จุลลินทรีย์ในโยเกิร์ตเกิดมาเพื่อฆ่าแบคทีเรียชนิดเลวทั้งหลาย การกินโยเกิร์ตจึงทำให้อาการท้องเสียของคุณทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่ายเลย
- โยเกิร์ตมีไขมันชื่อคอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- โยเกิร์ตไขมันต่ำหนึ่งถ้วยเป็นแหล่งรวมสารอาหารถึงสิบเอ็ดชนิด และแต่ละชนิดเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับร่างกายทั้งนั้น อย่างไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามันบีสอง โปรตีน วิตามันบีสิบสอง ทริปโทฟาน โพแทสเซียม โมลิปเดนัม สังกะสี และวิตามินบีห้า คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำถึงได้อายุยืนแถมแข็งแรงเหลือเกิน
- ถึงแม้ทำมาจากนม แต่โยเกิร์ตให้โปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดา เพราะลำไส้ของเราย่อยนมไม่ได้ แต่สำหรับโยเกิร์ตกลับทำได้ เพราะในโยเกิร์ตมีกรดแลกติกที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลงทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้
- จุลินทรีย์ทั่วไปอาจทำร้ายร่างกาย แต่แลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ร่างกายต้องการ มันจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ "เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร" ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ แถมยังทำตัวเป็นนักปราบปรามจุลินทรีย์ที่จะทำให้คุณเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วงที่มีรอบเดือนผู้หญิงจึงควรทานโยเกิร์ตเป็นประจำเพื่อกำจัดเชื้อโรคในช่องคลอด
- แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ตจะทำให้กระดูกเราแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันสูง มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นระบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
- ทำให้ปากสะอาด กำจัดกลิ่นปากและโรคเหงือก
- เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะแบคทีเรียในโยเกิร์ตทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเคและบีในลำไส้ได้ดีขึ้น
การทานโยเกิร์ตที่ได้ผลที่สุดควรทานรสธรรมชาติที่ไม่มีการแต่งกลิ่นรสหรือเพิ่มน้ำตาลลงไป

Swatch




Swiss watch exports are up 95% of the production. And the Swiss watch exports as the country's number one in the world.

นาฬิกายี่ห้อ Swatch ออกมาขายเป็นเรือนล้าน (ใช้เทคโนโลยี่คว้อตซ์) และทำให้ประเทศสวิสกลับมาอยู่แถวหน้าของการส่งออกนาฬิกาอีกครั้งหนึ่ง

กันน้ำได้ จับเวลาได้ ราคาก็ประมาณ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ บาท

ความสำเร็จขอคนที่รู้จักนาฬิกาสวิสย่อมเชื่อถือในคุณภาพอันสูงเยี่ยม (แม้ Swatch จะราคาถูก แต่คุณภาพก็ไม่กระจอกค่ะ ทำอะไรได้หลายอย่าง กันน้ำได้ทุกเรือน มีแบบจับเวลาได้ด้วย) และภาคการส่งออกนาฬิกานั้นติดอันดับสามของประเทศ รองจากการส่งออกเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรม (นับจากมูลค่าการส่งออก) งนาฬิกา Swatch ถือเป็นจุดหมุนเปลี่ยนที่สำคัญของนาฬิกาสวิสทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตยี่ห้ออื่น ๆ เกิดความมั่นใจอีกครั้งหนึ่ง

นาฬิกาสวิสนั้นมีการส่งออกถึง ๙๕% ของจำนวนที่ผลิต และทำให้สวิตฯเป็นประเทศส่งออกนาฬิกาอันดับหนึ่งของโลก




วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

6 วิธีบริหารสายตาเมื่ออ่านหนังสือดึกๆ

ท่า1กรอกลูกตาไปซ้ายสุด และก็ไปทางขวาสุด สัก 10 รอบ
ท่า2กรอกลูกตาขึ้น บน ล่าง 10 รอบเช่นกัน
ท่า3กลอกลูกตาไปในทิศ ปลายคิ้วขวา (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)แล้วก็กลอก เลือกไปที่แก้ม ซ้าย (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) 10 รอบ
ท่า4ทำเหมือน กับท่า3 แต่อีกด้านหนึ่ง
ท่า5กลอกลูกตาหมุนเป็นวงกลม ซ้าย-ขวา 10 รอบท่า6 หลับตาทั้งสอง ข้าง แล้วเอานิ้วชื้ วางเหนือหัวคิ้ว ค่อยๆ กดและนวดรอบดวงตา

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ช็อกโกแลตชิ้นโปรด...ทายนิสัย

ช็อคโกแลตมิ้นต์ : เป็นคนที่มองไปข้างหน้าอยู่เสมอ ไม่ชอบเก็บเอาอดีตมาใส่ใจ ไม่มีกฏระเบียบอันใดที่จะหยุดน้องๆ ได้ ยกเว้นแต่จะเป็นคนสร้างกฏนั้นเสียเอง เป็นคนชัดเจน และเปิดเผย ตรงไปตรงมา เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีความพยายามมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ข้อเสีย บางครั้งก็มุ่งมั่นมากเกินไป ควรจะปล่อยวางบ้าง
ช็อคโกแลตนม : เป็นคนโรแมนติก และแสนอบอุ่น ตัดสินใจรวดเร็ว คุยสนุก ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอในยามที่พวกเขาต้องการ ข้อเสีย ด้วยความที่มักจะเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจของคนอื่นๆ อยู่เสมอ อาจจะทำให้คนอื่นคิดว่าน้องๆ ชอบทำตัวเด่นเกินไป และในบางเวลาก็ควรหันมาใส่ใจตัวเองให้มากก่อนไปช่วยเหลือคนอื่น
ช็อคโกแลตสอดไส้ : เป็นหนุ่ม-สาวสังคมตัวยง มีงานปาร์ตี้ที่ไหนก็ไม่เคยพลาด เป็นคนชอบให้มีคนอยู่รอบข้างเสมอ และที่สำคัญคุณเป็นคนใจบุญ ข้อเสีย เบื่อง่าย และมักจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนอื่นแบบง่ายๆ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
ช็อคโกแลตขม : เป็นคนไม่ชอบการรอคอยอะไรที่นานๆ และมักจะตกหลุมรักง่าย เป็นคนใจร้อน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนช่างคิด ข้อเสีย เป็นคนที่ขาดความอดทน เหมือนเป็นคนที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเองกลับไม่ได้อะไรเลย
ช็อคโกแลตเวเฟอร์ : เป็นคนรักสนุก มีอารมณ์ขัน ช่างพูดช่างคุย ทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ มักจะชอบเล่าเรื่องตลก หรือมีกลเม็ดเด็ดคอยทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอ ใครที่ได้เป็นเพื่อนกับน้องๆ ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะน้องๆ คือ เพื่อนแท้แห่งชีวิต

ทายนิสัย...จากการยืน

ยืนหลังงอ : การยืนแล้วหลังงอ หรือค่อมลงมานั้น แสดงว่าเป็นคนซีเรียส และรอบคอบมาก โดยเฉพาะกับเรื่องการงานซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอย่างยิ่ง และไม่ชอบให้ใครมาล้อเล่นกับตน ในขณะเดียวกันคนแบบนี้ก็จะเขินประหม่าได้ง่ายๆ อย่างไม่น่าเชื่อในสถานที่ที่มีคนมาก แต่ก็เป็นพ่อแม่ที่ดี
ยืนอกผายไหล่ผึ่ง : ท่ายืนแบบนี้แสดงถึงความสง่า ผ่าเผย เข้มแข็ง ดังนั้นจึงแสดงว่าเป็นคนที่มีนิสัยกล้าหาญ และมีความเป็นผู้นำคนอื่น เป็นคนชอบใช้ชีวิตกลางแจ้งที่เป็นอิสระไร้กฎเกณฑ์ต่างๆ มาพันธนาการ แล้วก็ยังเป็นคนมีเพื่อนมาก แต่เมื่อมีครอบครัวจะเป็นคนที่รักบ้านและครอบครัวเป็นพิเศษ และเป็นยังคนมีความสามารถในการไกล่เกลี่ยอีกด้วย
ยืนตัวตรงเป๊ะ : คนที่ยืนแบบนี้ มักเป็นคนที่มีความเผด็จการ หรือชอบให้คนอื่นทำตามความคิดของตน ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นคนที่ไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น แต่จะเป็นคนคอยออกคำสั่งหรือบงการได้ดี เป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตัวเองสูง ชอบความสะอาด สะอ้าน และความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบแล้วก็ยังเป็นคนที่ตรงไปตรงมา มักถูกนิสัยกับคนที่พูดจาที่ฉะฉานไม่อ้อมค้อม
ยืนเอนตัวไปด้านหลัง : เป็นคนที่มีนิสัยสุภาพเรียบร้อยเป็นอย่างยิ่งซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงก็คือผู้หญิงที่อ่อนหวานนุ่มนวล แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็จะเป็นคนที่ละเอียดเรียบร้อยเกินนิสัยผู้ชายทั่วไป แล้วยังค่อยไปทางขี้อายประหม่าง่าย แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้รู้จักจะชื่นชอบในนิสัยใจคอ เพราะเป็นคนเรียบง่ายไม่ถือ เนื้อถือตัว หรือมีพิธีรีตองอะไร
ยืนไร้ท่าทางชัดเจน : คนๆ นี้จะยืนได้ไร้ระเบียบมาก ปลายเท้าข้างนึงชี้ไปทางนี้ อีกข้างชี้ไปทางนั้น ดังนั้นจึงเป็นคนที่ไม่ชอบการอยู่ในกฎเกณฑ์ หรือในระบบที่คนอื่นกำหนดขึ้นมาได้เลย แต่จะชอบงานที่ได้ไปไหนมาไหน พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา เพราะเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบหยิบยื่นไมตรีให้คนอื่นๆ แล้วก็ยังชอบความสนุกสนานอีกด้วย
ยืนแอ่นตัว : คนที่เวลายืนแล้วมักแอ่นตัวหรือแอ่นพุงตัวเองไปข้างหน้านั้น แสดงว่าเป็นคนอ่อนไหว โอบอ้อมอารี และสามารถเป็นที่พึ่งพาของคนอื่นได้ดี โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องมีการตัดสินใจ เพราะเป็นคนรอบคอบ รู้จักคิดคิดหน้าหลังแต่จะเป็นคนที่ไม่ชอบการเข้าสังคม และการตกเป็นจุดสนใจของคนอื่น

21 สัตว์ที่สุดในโลก

1.สัตว์ที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในโลก (ปลาวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whale)
2.สัตว์ที่ตัวสูงที่สุด (ยีราฟ เป็นสัตว์ที่พบในบริเวณอัฟริกา ทางแถบใต้ของทะเลทรายสะฮะรา สูงถึง 23 ฟุต)
3.สัตว์ที่มีราคาแพงที่สุด (หมีแพนด้า เมื่อปี 2523 การซื้อขายกันในราคาถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ)
4.สัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด (เต่า ซึ่งมีอายุ 152 ปี)
5.สัตว์ที่มีตาโตที่สุด (ปลาหมึกยักษ์ ( giant squid ) ตามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกินกว่า 15 นิ้ว)
6.สัตว์ที่มีระยะเวลาตั้งท้องนานที่สุด (ซาลามานเดอร์ ถ้าอยู่บนภูเขาแอลป์ จะใช้เวลาตั้งท้อง 38 เดือน แต่ถ้าอยู่ในที่ราบธรรมดา จะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 24-26 เดือน)
7.สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่อาศัยอยู่ที่ลึกที่สุด (ปลาวาฬ ดำลงไปลึกถึง 620 ฟาธอม ประมาณ 1,134 เมตร)
8.สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (ช้างอัฟริกา โดยเฉลี่ยช้างมีน้ำหนักประมาณ 5.7 ตัน)
9.สัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุด (ชีต้า สามารถวิ่งได้เร็วประมาณ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง พบแถวอัฟริกาตะวันออกอิหร่าน อัฟกานิสถาน)
10.นกที่ตัวใหญ่ที่สุด (นกกระจอกเทศ สูงประมาณ 9 ฟุต น้ำหนักราว ๆ 156.5 กิโลกรัม)

11.นกอะไรบินเร็วที่สุด (นกอินทรีย์ (Golden Eagle) บินได้ชั่วโมงละ 15 ไมล์)
12.นกอะไรตาไวที่สุด (แร้ง)

13.นกที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุด (นกแพนกวิน สามารถว่ายน้ำได้ประมาณ 17 ไมล์ต่อชั่วโมง)
14.สัตว์เลื้อยคลานที่ตัวใหญ่ที่สุด (จระเข้ พบแถวเอเซีย ออสเตรเลีย นิวกีนี และมาเลเซีย มีน้ำหนักประมาณ 900-1150 ปอนด์)
15.งูที่ตัวยาวที่สุด (งูฉลาม มีความยาวเกินกว่า 20 ฟุต พบในอินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์)
16.ปลาทะเลที่ใหญ่ที่สุด (ปลาวาฬ)
17.ปลาอะไรที่ดุร้ายที่สุด (ปลาปิรันยา อยู่ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน ปลาเพียงฝูงเล็ก ๆ จะรุมกินคนหมดอย่างรวดเร็ว)
18.ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด (ปลาบึกโตเต็มที่จะมีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 2.43 เมตร น้ำหนักประมาณ 163 กิโลกรัม)
19.ปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุด (ปลาฉนาก (sail fish ) สามารถว่ายน้ำได้เร็วประมาณ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง)
20.ปลาที่มีปริมาณมากที่สุด (ปลาซาร์ดีน)
21.ปลาที่มีพลังงานไฟฟ้ามากที่สุด (ปลาไหลไฟฟ้าสามารถให้แรงเคลื่อนไฟฟ้า 400 โวลต์ ที่กระแส ไฟฟ้า 1 แอมเปร์)

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กำเนิดเนยแข็ง






เนยแข็ง หรือ Cheese เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกและมีการพัฒนารูป รส กลิ่นของเนยแข็งออกไปอย่างมากมายตามความนิยมและวัฒนธรรมการบริโภคของคนในแต่ละพื้นที่ แต่วันนี้ผมจะมาเล่าถึงกำเนิดของเนยแข็ง ว่ามีที่ไปที่มากันอย่างไรถึงได้มาเป็นเนยแข็งสุดยอดอาหารยอดนิยมของโลกในวันนี้ กำเนิดของเนยแข็งนั้น ไม่มีเอกสารใดที่อ้างอิงไว้อย่างเป็นทางการ มีเพียงตำนานเล่าขานกันว่าเนยแข็งนั้นได้ถือกำเนิดเมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสต์กาลในทะเลทรายแถบตะวันออกกลาง โดยชายชาวอาหรับคนหนึ่ง ซึ่งตำนานก็ไม่ได้บอกว่ามีชื่อว่าอะไร ได้เดินทางข้ามทะเลทรายโดยใช้อูฐเป็นพาหนะและเขาได้บรรจุนมใส่ในกระเป๋าใบเล็กๆ ที่ทำจากกระเพาะแกะ เพื่อใช้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง แล้วก็เดินทางรอนแรมไปในทะเลทราย จนเกิดกระหายน้ำขึ้นมา จึงยกกระเป๋าขึ้นหมายจะดื่มนมให้สมใจ แต่กลับพบว่า นมแยกออกเป็น 2 ชั้น ชั้นหนึ่งมีลักษณะเป็นก้อนข้นขาว ส่วนอีกชั้นหนึ่งเป็นน้ำสีขุ่นคล้ายหางนม เหตุที่ทำเป็นเช่นนี้ ก็เพราะในเยื่อบุของกระเพาะแกะ มีเอนไซม์ที่ชื่อว่า 'เรนนิน' ซึ่งเมื่อรวมกับความร้อนในทะเลทรายที่ทำให้นมอุ่นขึ้น และแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากการเคลื่อนไหวของอูฐ ทำให้นมเกิดแยกออกเป็น 2 ชั้น และเทคนิคอันนี้เองที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตเนยแข็งจนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ชายอาหรับคนนี้ แกก็ไม่ได้สนใจเทคนิคที่พบโดยบังเอิญนี้เท่าใดนัก แกรู้แต่เพียงว่า หางนมนั้นยังกินได้ และส่วนก้อนๆ แข็งๆ นั่น ก็อร่อยดีเท่านั้นเอง เมื่อชายอาหรับคนนี้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เทคนิคนี้ก็ได้นำมาใช้เพื่อให้การเก็บนมทำได้ง่ายขึ้น และนานขึ้นในระหว่างการเดินทางเท่านั้นเอง จนกระทั่งถึงยุดของมองโกลเรืองอำนาจเทคนิคการเก็บรักษานม โดยทำเป็นเนยแข็งก็ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อใช้เป็นอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าให้กับนักรบมองโกลเมื่อถึงยุคสมัยที่โรมันเรืองอำนาจ ก็เริ่มมีการผลิตเนยแข็งตามครัวเรือน อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขั้นตอนการผลิตต่างๆ ถูกพัฒนา จนได้เนยแข็งหลากหลายรส เนยแข็งกลายเป็นอาหารของขุนนางชั้นสูง และเผยแพร่ไปทั่วยุโรปตามเหล่าทหารโรมัน ที่ยกพลไปบุกประเทศต่างๆ จนถึงยุคกลาง บาทหลวงกลายเป็นผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาเนยแข็ง ให้มีหลากรสชาติมากปัจจุบันเรามีเนยแข็งถึงกว่า 2,000 ชนิดโดยมีส่วนผสมและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ในศตวรรษที่ 19 เนยแข็งก็กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญมาก เพราะเนยแข็งกลายเป็นผลิตภัณฑ์นมที่มีคนนิยมบริโภคไปทั่วโลก

Wild poulet au curry. (แกงป่าไก่)


Arôme

2 cuillères à soupe de curry.

La viande de poulet 250 grammes.

Un épis de maïs en conserve.
100 grammes ou de haricot soupe aux pois.

Champignons 4-5 fleurs. Kha 7-8 verres.

Une herbe précoce.

Cool comme feuilles de basilic 1 tasse Kra trois souches 3 poivrons doux bouquet.

poivre de Cayenne 1 graine.

2 cuillères à soupe de sauce de poisson.
2 c. à thé de sucre. 2 ½ tasses d'eau.


Comment faire

1. Galanga, la citronnelle et le laver à fond. Égoutter l'eau et l'herbe à Soi rapide Les jambes et douille est coupé dans les verres d'autres. Ensuite, être soigneusement livre.
2. Ajouter la pâte de cari et de la livre à un citronnelle et galanga ensemble avec de la pâte.
3. Apportez les champignons, les haricots et bien rincer. Égoutter et couper haricot coupe diviser les champignons sont 4-6.
4. Le maïs miniature, haché coupe.

5. Le piment et l'eau de lavage Égoutter et couper la tête est d'autres. Le Soi Kra Kra est fibreuse être annulée.
6. Les morceaux de poulet dans une taille suffisante.

7. Ouvrez le four à feu moyen l'eau une tasse très forte de l'eau bouillante dans une casserole d'attente jusqu'à ce que le curry est le livre le poser. Remuer jusqu'à ce que fondu sur curry. Lorsque la soupe bouillante, puis ajouter le poulet, le couper.
8. Remuer jusqu'à ce que bien du poulet cuit. Ajouter plus d'eau pour 1 tasse et demie d'attente jusqu'à ce que la soupe est en ébullition à nouveau, ajoutez la fève à le réduire à tous les peuples.
9. Lorsque soupe bouillante. Ajouter le maïs bébé à elle. Tous les peuples et assaisonner avec la sauce de poisson et le sucre. Mélanger tous les ingrédients ensemble.
10. Soupe à ébullition pendant 10 minutes puis les champignons et le poivron haché piment à Krachai feuilles de basilic Soi jeunes et y ajouter. Les gens à l'ordinateur tous ensemble. Dans le four et le décollage.



Mother Day บอกรักแม่กันนะจ๊ะ



นักภาษาศาสตร์ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า คำว่า "แม่" ของทุก ๆ ภาษา มาจากการออกเสียงของเด็ก โดยคำขึ้นต้นด้วยพยัญชนะริมฝีปากคู่ (Bilabial) ได้แก่ ม , พ , ป ,บ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นพยัญชนะชุดแรกที่เด็กสามารถทำเสียงได้ โดยการใช้ริมฝีปากบนและล่าง ดังเช่น

ภาษาไทย เรียก แม่

ภาษาจีน เรียก ม๊ะ หรือ ม่า

ภาษาฝรั่งเศส เรียก la mere (ลา แมร์)

ภาษาอังกฤษ เรียก mom , mam

ภาษาโซ่ เรียก ม๋เปะ

ภาษามุสลิม เรียก มะ

ภาษาไท เรียก ใต้คง เม เป็นต้น

"แม่" เป็นคำโดดหรือคำไทยที่บ่งบอกความสัมพันธ์อันอบอุ่นลึกซึ้งระหว่างผู้หญิงกับลูก แม่ หมายถึง ผู้มีพระคุณ ผู้ให้กำเนิด ให้น้ำนมลูกดื่มกิน ให้ความรักความเมตตาและปกป้องดูแลลูกจนเติบใหญ่ คำว่า "แม่" มักถูกนำไปใช้ร่วมกับคำอื่น ๆ โดยมีความหมายแตกต่างกันออกไป พอจะแบ่งแยกออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. แม่ ในฐานะเป็นคำที่ใช้แบ่งแยกเพศและบ่งบอกบทบาท ฐานะ สถานภาพและอากัปกิริยาของผู้หญิง เช่น แม่… (น.) : คำเรียกหญิงทั่วไป เช่น แม่นั่น แม่นี่ ; แม่ค้า (น.) : ผู้หญิงที่ดำเนินการค้าขาย ; แม่ครัว (น.) : หญิงผู้ดูแลครัว หุงหาอาหาร ; แม่คู่ (น.) : นักสวดผู้ขึ้นต้นบท ; แม่นม (น.) : หญิงผู้ให้นมเด็กกินแทนแม่ ; แม่บ้านแม่เรือน (น.) : หญิงดูแลบ้านเรือน ; แม่แปรก (น.) : หญิงผู้จัดจ้านหรือเป็นหัวหน้ากลุ่ม ; แม่มด (น.) : หญิงหมอผี หญิงคนทรง หญิงเข้าผี ; แม่ยาย (น.) : คำเรียกแม่ของเมีย ; แม่ม่าย (น.) : หญิงที่มีผัวแล้วแต่ผัวตายหรือเลิกร้างกันไป ; แม่ยั่วเมือง (น.) : คำเรียกพระสนมเอกแต่โบราณ ; แม่ย้าว (น.) : หญิงผู้เป็นแม่เรือน ; แม่รีแม่แรด (ว.) : ทำเจ้าหน้าเจ้าตา ; แม่แรง (น.) : หญิงผู้เป็นกำลังสำคัญในการงาน, เครื่องดีดงัดหรือยกของหนัก ; แม่เลี้ยง (น.) : เมียของพ่อที่ไม่ใช่แม่ตัว, หญิงที่เลี้ยงลูกบุญธรรม ; แม่เล้า (น.) : หญิงผู้กำกับควบคุมดูแลซ่องโสเภณี ; แม่สื่อแม่ชัก (น.) : ผู้พูดชักนำให้หญิงกับชายรักกัน ; แม่อยู่หัว (น.) : คำเรียกพระมเหสี เป็นต้น
2. แม่ เป็นคำที่ใช้บ่งบอกฐานะของผู้ปกป้องคุ้มครอง เช่น แม่ย่านาง (น.) : ผีผู้หญิงผู้รักษาเรือ นางไม้ ; แม่ซื้อ, แม่วี (น.) : เทวดาหรือผีที่คอยดูแลทารก เป็นต้น

3. คำว่า แม่ ยังถูกนำมาใช้เรียก อย่างไรก็ตาม ความหมายหลักของคำว่า แม่ ก็คงหนีไม่พ้นการเป็นผู้ให้ชีวิตหรือหญิงผู้ให้กำเนิดบุตร หญิงผู้ปกป้องคุ้มครองและดูแลรักษา สังคมไทยยังใช้คำว่าแม่ตามความหมายนี้เรียกสิ่งดีงามตามธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อยกย่องเทอดทูนในฐานะผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงชีวิต เช่น แม่น้ำ แม่โพสพ แม่ธรณี เป็นต้น ความหมายของคำว่าแม่ในลักษณะเช่นนี้แสดงให้เห็นชัดอย่างชัดเจนว่าสังคมไทยแต่โบราณมายกย่องและให้เกียรติสตรีเพศผู้เป็นแม่ ตระหนักในบทบาทหน้าที่และบุญคุณของแม่ต่อชีวิตของลูก ๆ ตลอดมาทุกยุคทุกสมัย

ในบริบทของสังคมวัฒนธรรมไทย แม่ คือ ผู้เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อลูก ๆ คอยดูแลเอาใจใส่และประคบประหงมลูกจนเติบใหญ่ ความรักของแม่ถือว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์ สังคมไทยมักพูดถึงแม่ในฐานะของผู้ที่รักลูกยิ่งชีวิต พร้อมจะตกระกำลำบากเพื่อลูกของตนโดยไม่สำนึกเสียใจ นางจันทร์เทวีถูกขับออกจากเมือง ต้องระเหเร่ร่อนไร้ที่ซุกหัวนอนเพราะคลอดลูกเป็นหอยสังข์ แต่นางก็ยังรักและเฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงโดยไม่เคยคิดรังเกียจเดียดฉันท์แม้แต่สัตว์อย่างนางนิลากาสร ก็ยังรักและหวงแหนลูกอย่างทรพี ปกป้องลูกของตนมิให้ถูกฆ่าดังเช่นลูกของตัวอื่น ๆ

แม้ว้าโดยทั่วไปแล้ว คำว่า "แม่" จะบ่งบอกความหมายของการเสียสละ ความรักและความผูกพันที่ผู้หญิงที่มีต่อลูกของตน แต่การที่สังคมไทยมีลักษณะวัฒนธรรมเฉพาะที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชนชั้น ทำให้ความหมายของการเป็นแม่ ตลอดจนบรรทัดฐาน แบบแผน พฤติกรรมและบทบาทฐานะของผู้หญิงในวัฒนธรรมของแต่ละชนชั้นย่อมแตกต่างกันไป กผู้เป็นหัวหน้าหรือเป็นนาย บ่งบอกฐานะของผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลและควบคุม เช่น แม่กอง แม่ทัพ เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีดูแลดวงตาของคุณให้ใสปิ๊ง


>>> ล้างครีมรอบดวงตาทุกวัน : เนื้อครีมที่เกาะกันเป็นก้อนแข็งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าหากว่าหลุดเข้าไปในดวงตาเป็นประจำก็จะไปขูดให้กระจกตาถลอกได้ สาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกวันจึงต้องอย่าลืมล้างครีมและมาสคาร่าที่ป้ายไว้ออกให้หมด สวยแล้วต้องรักษาความสะอาดด้วยถึงจะเพอร์เฟ็กต์
>>> กินหอมใหญ่สีแดง : เทียบกันแล้ว หอมใหญ่สีแดงมีสารเกอร์เซตินซึ่งต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าหอมสีขาวเยอะเลย และสารอาหารตัวนี้เองที่จะป้องกันไม่ให้ต้อกระจกไม่มาราวีดวงตาสวยๆ ของคุณ
>>> เหนื่อยนักพักสายตาบ้าง : ดวงตาก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่รู้จักปวดเมื่อยอ่อนล้าเหมือนกัน การใช้สายตาโดยไม่พักเลยจะทำให้สมรรถภาพของสายตาแย่ลง ฉะนั้นทุกๆ 30 นาที ควรให้สายตาได้พักบ้างสัก 30 วินาที
>>> สวมแว่นกันแดด : การสวมแว่นก็เพื่อป้องกันรังสียูวีจาแสงแดดมาทำลายดวงตา โดยเฉพาะเวลานั่งในรถหรือเวลาอยู่กลางแดดจ้า นอกจากนี้สีของแว่นก็สำคัญ แว่นสีแฟชั่นพวกสีส้ม แดง เหลือง จะทำให้ประสาทตาต้องทำงานหนักขึ้น แต่ถ้าใส่เป็นสีฟ้าหรือสีเทาจะช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้พักมากกว่า
>>> กินผักโขมอาทิตย์ละ 2 ครั้ง : ผักโขมอุดมไปด้วยสุดยอดสารอาหารบำรุงสายตา นั่นคือสารลูเทอิน ซึ่งานวิจัยบอกว่าช่วยป้องกันต้อกระจกและภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้ดีมากๆ
>>> ตรวจความดันเป็นประจำ : โรคความดันโลหิตไม่ได้ทำให้สุขภาพแย่อย่างเดียว ยังทำให้สุขภาพตาเสียไปด้วย เพราะความดันที่สูงกว่าปกติจะทำลายหลอดเลือดในดวงตา ฉะนั้นอย่ามองข้ามการตรวจความดันเป็นอันขาด ผลร้ายมีมากกว่าที่คุณคิด>>> เหยาะน้ำมันกันสักนิด : น้ำมันที่ว่านี้คือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ เช่น กลิ่นมะลิ เปปเปอร์มิ้นต์ วานิลลา จะช่วยกระตุ้นคลื่นสมองส่วนหน้า ทำให้เกิดการตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า มีสมาธิและมองเห็นได้ชัดเจน วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่เหยาะน้ำมันกลิ่นที่คุณชอบลงไปที่ท้องแขนสัก 2-3 หยด หรือจะหยดใส่ผ้าเช็ดหน้าไว้สูดดมให้ชื่นใจก็ดูคุณหนูไม่เบา
>>> กินมันเทศบ่อยๆ : เนื้อมันเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยเรื่องบำรุงสายตาโดยตรง ทำให้เห็นในที่มืดได้ดีขึ้น
>>> ปรับจอคอมพิวเตอร์ลงอีกหน่อย : แสงจ้าผสมรังสียูวีจากคอมพิวเตอร์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สายตาแห้ง แต่วิธีแก้ปัญหาเล่นไม่ยาก แค่ปรับหน้าจอให้ต่ำลงกว่าสายตานิดหน่อย เพื่อที่เวลาเรามอง เปลือกตาบนจะได้หรี่ลงเล็กน้อย เหมือนเรากำลังหยีตาเวลาเจอแดด เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำในดวงตาระเหยออกไป >>> ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน : เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่า ตาสวยๆ ของหวานใจจะมีเชื้ออะไรแอบอยู่บ้าง ถ้าเราเอาผ้าเช็ดหน้าที่มีเชื้อโรคมาเช็ดตาก็อาจจะติดเชื้อตาแดงมาจากสุดที่รักก็ได้ แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของคุณเองก็ควรจะเปลี่ยนเอาไปซักบ่อยๆ เช่นกัน
>>> หยุดใช้เกลือ : ความเค็มจัดของเกลือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วขึ้น ถ้าเปลี่ยนจากใช้เกลือมาใส่น้ำปลาหรือเครื่องเทศที่มีรสเค็มแทน จะช่วยป้องกันต้อกระจกได้ หรืออย่างน้อยก็ควรจะเลือกอาหารที่บนฉลากเขียนว่า "เกลือโซเดียมต่ำ" หรือ "ปราศจากเกลือ" ได้ค่ะ
>>> ปรับแอร์ออกจากตัว : เวลานั่งรถ สาวๆ ควรจะปรับช่องแอร์ให้เบนออกห่างจากตัว อย่าให้แอร์เป่าใส่หน้าตรงๆ เพราะจะทำให้ตาแห้ง และในช่องแอร์ยังอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียซ่อนอยู่ การไม่ส่องแอร์เข้าหาตัวจึงเป็นวิธีปลอดภัยทั้งดวงตาและต่อสุขภาพด้วย

สูตรล้างพิษไขมัน

สูตรล้างพิษไขมัน(สำหรับคนกลัวอ้วน)
สูตร : นมสด + โยเกิร์ต + น้ำผึ้งมะนาว
โดยใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วยผสมนมสดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา บีบมะนาว 2 ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม
คุณสมบัติ : มีวิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน มีแคลเซียม ซ่อมแซมกระดูก จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อยน้ำมันพืช
รู้แล้วลองนำไปล้างพิษไขมันกันดูได้ค่ะ แต่ทางที่ดี เลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลัก ปราศจากไขมันอิ่มตัวจะดีที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Vainqueur du tour de France 2010


Alberto Contador, vainqueur du Tour de France 2010
Le mot du jour : vélo
L’Espagnol Alberto Contador a remporté dimanche 25 juillet le Tour de France 2010. Il devance le Luxembourgeois Andy Schleck de 39 secondes. Retour sur ce Tour de France 2010.

นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส



ฟรองซัวร์ ฟียง

นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส (Premier ministre français) เป็นตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีของประเทศฝรั่งเศส ส่วนประมุขแห่งรัฐของประเทศฝรั่งเศสคือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศฝรั่งเศสคือ ฟรองซัวส์ ฟียง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
การตัดสินใจหรือกฤษฎีกาของนายกรัฐมนตรี เสมือนกับการตัดสินใจทั้งหมดของฝ่ายบริหาร มีหน้าที่สอดส่องดูแลระบบสภาในหน่วยการบริหารทั่วประเทศ (Conseil d'État) บางครั้งนายกรัฐมนตรีได้รับคำปรึกษาจากสภาก่อนจะประกาศใช้กฤษฎีกา
เป็นที่รู้กันว่ารัฐมนตรีแต่ละท่านต้องการปกป้องนโยบายและโครงการในกระทรวงของตน แต่ก็ยังติดอยู่ที่งบประมาณ ซึ่งนายกรัฐมนตรีนี้เองเป็นคนชี้ขาดในเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าบางครั้งประธานาธิบดีจะมีนาจและอิทธิพลเหนือกว่าก็ตาม
เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลนโยบายของรัฐบาล เมื่อเกิดความผิดพลาดและล้มเหลวก็จะกลายเป็นคนที่ถูกประณามและตำหนิไปโดยปริยาย ผลที่ตามมาก็คือความนิยมที่มีสูงในช่วงแรกและลดฮวบลงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนคิดว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการส่งเสริมความสำเร็จของประธานาธิบดี และยังเป็นที่โต้เถียงอย่างมากว่าเป็นตำแหน่งที่อันตรายเพราะความเป็นไปได้ของการลดความนิยม