ตำนานการพับนกกระเรียน "นกแห่งความสุข"
ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนกกระเรียนคือ “นกแห่งความสุข” บ่อยครั้งก็อ้างไปถึง “เจ้าแห่งนกกระเรียน” ที่เชื่อกันว่าถ้าคนป่วยพับนกกระเรียนได้หนึ่งพันตัว เทพเจ้าจะรับคำอธิษฐานและอวยพรให้แข็งแรงอีกครั้ง เรื่องราวของการพับนกกระเรียนที่โด่งดังที่สุดนั้นได้เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่2 “ซาดาโกะ ซาซากิ”เป็นเด็กหญิงที่รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดถล่มเมืองฮิโรชิม่า แต่ซาดาโกะป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดโลหิตซึ่งเกิดจากกัมมันตภาพรังสี ซาดาโกะตั้งใจที่จะพับนกกระเรียนให้ครบหนึ่งพันตัว เพื่อที่ว่าเทพเจ้าจะช่วยให้เธอหายป่วยจากโรคร้าย แต่ซาดาโกะพับนกกระเรียนได้เพียง644 ตัว ซาดาดกะก็สิ้นชีวิต ภายหลังเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนของซาดาโกะได้ช่วยกันพับนกอีก356 ตัวและนำไปฝังพร้อมกับร่างของซาดาโกะ ในภายหลังรัฐบาลได้ทราบข่าวจึงได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์ของซาดาโกะ ในลักษณะที่เธอยืนชูสองแขนไปข้างหน้า โดยมีรูปนกกระเรียนกระดาษอยู่ในอุ้งมือทั้ง 2ข้างเพื่อเป็นการเตือนสติชาวญี่ปุ่นและชาวโลกให้ตระหนักถึงภัยของสงคราม
ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนกกระเรียนคือ “นกแห่งความสุข” บ่อยครั้งก็อ้างไปถึง “เจ้าแห่งนกกระเรียน” ที่เชื่อกันว่าถ้าคนป่วยพับนกกระเรียนได้หนึ่งพันตัว เทพเจ้าจะรับคำอธิษฐานและอวยพรให้แข็งแรงอีกครั้ง เรื่องราวของการพับนกกระเรียนที่โด่งดังที่สุดนั้นได้เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่2 “ซาดาโกะ ซาซากิ”เป็นเด็กหญิงที่รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดถล่มเมืองฮิโรชิม่า แต่ซาดาโกะป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดโลหิตซึ่งเกิดจากกัมมันตภาพรังสี ซาดาโกะตั้งใจที่จะพับนกกระเรียนให้ครบหนึ่งพันตัว เพื่อที่ว่าเทพเจ้าจะช่วยให้เธอหายป่วยจากโรคร้าย แต่ซาดาโกะพับนกกระเรียนได้เพียง644 ตัว ซาดาดกะก็สิ้นชีวิต ภายหลังเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนของซาดาโกะได้ช่วยกันพับนกอีก356 ตัวและนำไปฝังพร้อมกับร่างของซาดาโกะ ในภายหลังรัฐบาลได้ทราบข่าวจึงได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์ของซาดาโกะ ในลักษณะที่เธอยืนชูสองแขนไปข้างหน้า โดยมีรูปนกกระเรียนกระดาษอยู่ในอุ้งมือทั้ง 2ข้างเพื่อเป็นการเตือนสติชาวญี่ปุ่นและชาวโลกให้ตระหนักถึงภัยของสงคราม 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น