วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทัชมาฮาล (Taj Mahal) อนุสรณ์สถานแห่งความรัก


ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อน ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้ทรงมีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ ภายหลัง พระนางมุมตัส มาฮาล ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "อัญมณีแห่งราชวัง" ติดตามพระองค์ไปในสนามรบและคลอดรัชทายาทองค์ที่ 14 ก็เสด็จสวรรคต สร้างความเสียพระทัยให้กับ พระเจ้าชาห์มาฮาน เป็นอย่างยิ่ง
การสูญเสียเท่านี้ยังไม่พอ มีเรื่องเศร้ามากไปกว่านี้อีก เมื่อ พระเจ้าชาห์มาฮาน ทรงถูก พระโอรสโอรังเซบ นำเอาไปขังไว้ที่ Agra Fort และสถาปนาตนขึ้นครองราชย์แทน พระองค์ทรงถูกขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งเสด็จสวรรคต ในแต่ละวัน พระเจ้าชาห์มาฮาน ได้แต่ทอดพระเนตรมาที่ ทัชมาฮาล ซึ่งเป็นหลุมที่ฝังพระศพของพระมเหสีจนสิ้นพระชนม์ ตามเรื่องเล่าบอกว่า วันที่พระมเหสีของ เจ้าชายโอรังเซบ ทรงมีพระประสูติกาล วันนั้นเป็นวันที่พระโอรสทรงหวนระลึกถึงสิ่งที่ได้ทรงกระทำความผิดไว้กับ พระเจ้าชาห์มาฮาน จึงทรงให้ปล่อยพระองค์ออกจากที่คุมขัง แต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะพระองค์สิ้นพระชนม์เสียแล้ว ตำนานการสร้าง ทัชมาฮาล ยิ่งฟังยิ่งเศร้า ผู้คนพากันยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก แต่ตอนหลังเริ่มมีการตีความแตกต่างกันออกไปว่า พระเจ้าชาห์มาฮาน ทรงเห็นแก่ตัวเพราะความรักที่มีต่อพระมเหสี เนื่องจากการก่อสร้าง ทัชมาฮาล นั้นเป็นสิ่งที่หรูหราที่สุด สรรหาวัสดุที่มาประดับตกแต่งแต่ละอย่างนั้นต้องเรียกว่าสุดยอดของโลก การก่อสร้างใช้เวลาทั้งหมดกว่า 20 ปี ใช้แรงงานมากมาย หมดเงินมหาศาล สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้ประชาชนลำบากยากเข็ญเหลือเกิน บางคนถึงกับสรุปว่าเป็นความรักที่เห็นแก่ตัว ทั้งหมดเกิดจากการตีความของผู้คนรุ่นหลัง หรือคนในยุคปัจจุบันแล้วแต่มุมมอง แม้จะมีการตีความกันไปตามความเห็นที่แตกต่าง แต่ต้องบอกว่าหากใครได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่แห่งนี้ พร้อมรู้เรื่องราวความเป็นมาอย่างละเอียด จะมีความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เป็นการสัมผัสความยิ่งใหญ่ระหว่างความรักของ พระเจ้าชาห์มาฮาน ที่มีต่อ พระมเหสีมุมตัส ที่สำคัญปัจจุบัน ทัชมาฮาล เป็นเป้าหมายปลายทางที่ผู้คนพากันเดินทางไปชม ปีละนับเป็นล้าน ๆ คน

ทัชมาฮาล ตรงมุมที่ยืนออกไปแล้วเห็นสายน้ำยุมนานั้น บอกเล่าความไม่แน่นอนของชีวิต สายน้ำไหลไปเรื่อย ๆ ซึมซับเรื่องราวที่ผ่านมาจนมาถึง ทัชมาฮาล เซาะซัดซึมซับความรัก ความผูกพันระหว่างใจสองดวงที่มีให้กัน ซึ่งแทบจะมิอาจพบเห็นได้ในยุคปัจจุบัน ครั้นพอเดินถึง Agra Fort ดินแดนที่ พระเจ้าชาห์มาฮาน ทรงถูกขังไว้ชั่วชีวิต แล้วทอดพระเนตรมายังสถานที่ฝังพระศพมเหสีใน ทัชมาฮาล สถานที่แห่งนั้นดูเหมือนยากที่จะเข้าใกล้ แต่ พระเจ้าชาห์มาฮาน ก็ยังทรงประทับยืนทอดพระเนตรมาทุกวันจนสิ้นพระชนม์ แม้จะมีปราการเป็นสิ่งก่อสร้างขวางกั้นไว้ แต่ก็ไม่อาจแยกสายใยแห่งความผูกพันของคนทั้งสองได้ ด้วยเหตุนี้เองฉันจึงให้ฉายาว่า "ทัชมาฮาล รักสร้างโลก" เพราะแม้ใครๆ จะว่าความรักแบบนี้หลงเหลือแต่ในนิยายน้ำเน่าเก่าแก่ไม่ทันสมัยแล้ว แต่ความรักแบบนี้ยังงดงามและตราตรึงใจคนทั่วโลกอยู่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น