วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผัก ผลไม้ 5 สี ดีมีประโยชน์

จากงานวิจัย ชายไทยร้อยละ 80 กินผักผลไม้เพียง 268 กรัม/คน/วัน และหญิงไทยร้อยละ 76 กินผักผลไม้เพียง 276 กรัม/คน/วัน ซึ่งตัวเลขนี้ห่างจากมาตรฐานที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ที่ 400-500 กรัม/คน/วัน พอสมควรทีเดียว และจากจุดนี้นี่เองที่ทำให้เราป่วยเป็นโรคง่าย เพราะได้รับคุณค่าของสารอาหารไม่เพียงพอ ทั้งหมดจึงเป็นสาเหตุที่เราจำเป็นจะต้องหันมากินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟโตนิวเทรียนท์ที่มากพอ และการที่จะได้รับอย่างมากพอนั้น ก็ไม่ควรกินผัก ผลไม้เพียงแค่ชนิดเดียว ควรกินให้ครบ 5 สี ทั้ง แดง เหลือง เขียว ม่วง ขาว เพราะแต่ละชนิดให้คุณค่าของสารอาหารไฟโตนิวเทรียนท์ที่แตกต่างกันไป อย่างในผัก ผลไม้สีแดงที่เห็นคุณประโยชน์เด่นชัดเลยก็คือ มะเขือเทศ ทับทิม อะเซโรล่าเชอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ หรือแม้กระทั่งลูกแอปเปิ้ลแดงก็ตาม ในผัก ผลไม้สีแดงนี้จะมีสารไลโคปิน กรดเอลลาจิก แอนโธไซยานิน และกรดแกลลิก ที่ช่วยทำให้ระบบการทำงานของต่อมลูกหมากดีขึ้น ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิดอีกด้วย สำหรับผัก ผลไม้ สีเหลืองส้ม จะช่วยในเรื่องของผิว เพราะมีเบต้าแคโรทีนอยู่จำนวนมาก ผักสีเขียวที่แทบจะเรียกได้ว่ามีมากที่สุดในบรรดาผัก ผลไม้ต่าง ๆ เช่น บร็อคโคลี่ คะน้า กะหล่ำปลี ผักโขม ผักบุ้ง กวางตุ้ง โหระพา กะเพรา สะระแหน่ และวอเตอร์เครส โดยในผักสีเขียวจะอุดมไปด้วยสารไอโซไธโอไซยาเนท ลูทีน ซีแซนทีน แคททิชิน สารอาหารเหล่านี้จะเข้าไปมีส่วนช่วยทำให้เซลล์สามารถทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังสนับสนุนการทำงานของปอด หลอดเลือดแดง และตับอีกด้วย

ผัก ผลไม้สีขาวอย่างกระเทียม หอมใหญ่ เห็ด กะหล่ำดอก ผักกาดขาว ดอกแค และมะขามเปราะ ก็มีสารอาหารที่ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงเช่นกัน โดยในกระเทียมมีอัลลิซิน เควอซิทิน ที่ช่วยดูแลในเรื่องของกระดูก และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดี ดอกแคก็มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคหวัดได้ และยังมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยให้ผิวสวยอีกต่างหาก

สำหรับผัก ผลไม้สีสุดท้ายนั่นก็คือ สีม่วง น้ำเงิน เป็นกลุ่มที่มีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ สามารถพบได้ง่าย ๆ ในกะหล่ำปลีสีม่วง มะเขือม่วง หรือบลูเบอร์รี่ก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วสารแอนโทไซยานินยังมีส่วนในการช่วยขยายหลอดเลือดทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและอัมพาตลดลงได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น